Douluo Dalu4.5 : บทที่24 รู้ความกลัวเป็นข้อได้เปรียบ

    Author: Lemonade Genre: »
    Rating

    Douluo Dalu4.5 : บทที่24 รู้ความกลัวเป็นข้อได้เปรียบ


    ณ ตอนนี้ บริเวณค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกล้อมไปด้วยกองทัพปีศาจ แสงรัศมีของโล่ค่อยๆจางลงเรื่อยๆ ดูเหมือนว่ามันจะจางหายไปเมื่อไรก็ได้ กรงเล็บปีศาจโจมตีผ่านค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้มันค่อยๆยุบตัวลงทีละน้อย เกือบจะถึงตรงหน้าของเขา

    เมื่อเห็นแสงรัศมีและระลอกคลื่น ที่เกิดจากแรงกระแทกค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่องของปีศาจ และกรงเล็บที่ใกล้เข้ามาเกือบจะถึงตัวเขา ก็ทำให้หลิงอวี่โม่อดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งตัว

    เขาล้มก้นจ้ำลงกับพื้น แล้วค่อยๆถอยหลังไปจนติดขอบของค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งห่างจากกรงเล็บปีศาจไม่เท่าไหร่

    "จะทำอย่างไร จะทำอย่างไร จะทำอย่างไรดี" ตอนนี้เขากังวลมากจนร่างกายสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง ทำให้เขารู้สึกหมดหนทาง

    หากค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ถูกทำลาย เขาจะต้องตาย!

    ครู..คุณอยู่ที่ไหน!

    อย่างไรก็ตามจางกงเว่ยไม่ได้ตั้งใจที่จะปรากฏตัวในเวลานี้

    เมื่อผู้คนเผชิญหน้ากับอันตราย พวกเขามักจะแสดงศักยภาพที่แฝงอยู่ของเขา และสิ่งที่หลิงอวี่โม่กำลังเผชิญอยู่นี้คืออันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตและความตายของเขา

    สมองของเขาประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว เขาเคยฝึกธาตุแสงมาก่อน และตอนนี้ร่างของเขาก็อบอุ่น และรู้สึกสบายจนสุดแสนจะพรรณนาได้

    ในเวลานี้รัศมีของความอบอุ่นก็เพิ่มขึ้น ทำให้อารมณ์ที่กระวนกระวายของเขาค่อยๆสงบลง ค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์! ค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ที่สามารถป้องกันได้

    ใช่แล้ว ค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์

    เขารีบรื้อฟื้นความทรงจำของตัวเอง เกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ และในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่ามันไม่ได้ยากที่จะนึกถึง เพราะความรู้เกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ หยั่งรากลงไปในจิตใจของเขาเรียบร้อยแล้ว

    ที่จริงแล้วค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นค่ายกลขององค์ประกอบแสง มันไม่ได้แบ่งเป็นระดับขั้น แต่เมื่อมีองค์ประกอบแสงยิ่งมาก มันก็ทำให้ความแข็งแกร่งของค่ายกลสูงขึ้นโดยปริยาย

    หากคุณต้องการใช้ค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ คุณต้องเชี่ยวชาญทุกจุดของค่ายกลทั้งหมดเพื่อฉีดพลังแสงศักดิ์สิทธิ์เข้าไป

    คำสาปต้องห้ามที่ครูของเขาร่ายก่อนหน้านี้นั้นไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของเขาในทันที แต่ตอนนี้เขาคิดเพียงว่าจะรักษาค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้าเขาไว้ได้อย่างไร

    เขาต้องฉีดองค์ประกอบแสงเข้าไปในแต่ละจุดของค่ายกลพร้อมกัน แต่เขาไม่มั่นใจว่าเขาจะมีความสามารถในการควบคุมองค์ประกอบแสงนั้นหรือไม่ นี่เป็นปัญหาของเขาในตอนนี้

    หลังจากเขาครุ่นคิดอีกครั้ง ไม่นานเขาก็จำได้ว่า ต้องท่องคาถา 

    "ธาตุแสงที่ยิ่งใหญ่! โปรดฟังคำขอของฉัน และทำตามหัวใจของฉัน" เขาพึมพำขึ้นมา

    ทันใดนั้น ฉากแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้น และจุดแสงที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็เริ่มปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขา ในการรับรู้ของเขานั่นคือความจริงที่ว่าองค์ประกอบแสงจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังควบแน่นอย่างรวดเร็ว และองค์ประกอบแสงจำนวนมากก็ถูกควบแน่นเข้าด้วยกัน จุดแสงประเภทนี้ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจึงปรากฏขึ้น

    ที่แปลกประหลาดไปกว่านั้นคือ เมื่อจุดแสงนี้ปรากฏขึ้น กรงเล็บของปีศาจที่โจมตีเข้ามายังค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ แล้วได้สัมผัสกับจุดแสงนี้ ก็มีควันสีน้ำเงินปรากฏขึ้น ปีศาจกรีดร้องและดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว

    แบบนี้ใช่หรือไม่?

    หลิงอวี่โม่กะพริบตาและรีบนำองค์ประกอบแสงที่ควบแน่นเหล่านี้ ฉีดไปยังแต่ละจุดของค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาเพิ่งเรียนรู้

    ในวิกฤตความเป็นความตายนี้ ความทรงจำของเขาค่อนข้างดีเป็นพิเศษ ค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์มีจุดสำคัญอยู่ทั้งหมดสิบแปดจุด ซึ่งจุดทั้งหมดนี้ปรากฏอยู่ในจิตใจของเขาอย่างชัดเจน

    ขณะนี้องค์ประกอบแสงได้ถูกฉีดเข้าไปในจุดทั้งสิบแปดพร้อมกัน

    ค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์มีเสียงเกิดขึ้นเล็กน้อย และรัศมีของโล่แสงที่ดูสลัวๆเบาบางก็แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย รูที่ถูกกรงเล็บเจาะก็ถูกซ่อมแซมทั้งหมด

    ปีศาจก็ยังโจมตีค่ายกลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เห็นได้ชัดว่าค่ายกลวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นมีเสถียรภาพดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เขาถอนหายใจยาวๆ และความรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก็วนเวียนอยู่ในหัวของหลิงอวี่โม่ในทันที อย่างไรก็ตามด้วยการฉีดธาตุแสงอย่างต่อเนื่อง ไม่ช้าหลิงอวี่โม่ก็พบว่าร่างกายของเขามีความรู้สึกคล้ายกับความว่างเปล่า และจิตใจของเขาก็รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย

    หรือนี่เป็นสัญญาณของการบริโภคพลังวิญญาณมากเกินไป? ฉันควรทำอย่างไร?

    ฟื้นฟูสมาธิ !

    เพื่อรักษาชีวิตของเขา เขาไม่ลังเลที่จะรีบนั่งสมาธิในทันที

    ในครั้งนี้ เขามีความกระตือรือร้นและจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม และพลังจิตของเขาก็ถูกระดมอย่างเต็มที่ เพื่อดูดซับธาตุแสงในอากาศ และรวมเข้ากับร่างกายของเขา

    เมื่อเขาเข้าสู่การทำสมาธิอีกครั้ง ก็มีร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเงียบๆ อยู่ข้างๆเขา

    นี่มันราชันเทพแห่งแสงจางกงเว่ยไม่ใช่หรือ?

    เมื่อมองไปที่หลิงอวี่โม่ที่กำลังนั่งสมาธิอย่างจริงจัง จางกงเว่ยก็อดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

    แรงกดดันคือการกระตุ้น คนโบราณไม่ได้หลอกฉัน ในบางครั้งความกลัวความตายก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ความกลัวความตายได้พิสูจน์แล้วว่าเด็กคนนี้ฉลาดมากจริงๆ

    ตามคำกล่าวที่ว่า โง่เขลา โง่เขลา โง่เขลา ไร้ความกลัว

    ความกลัวเป็นการแสดงที่ฉลาดจริงๆ

    แน่นอนว่าความฉลาดและสติปัญญาของคนขี้ขลาดจำเป็นต้องถูกกระตุ้นมันถึงปรากฏ

    จางกงเว่ยโบกมือ ก็เกิดคลื่นแสงทำให้ปีศาจนอกค่ายกลเปลี่ยนกลุ่มทันที และแข็งแกร่งขึ้นกว่ากลุ่มก่อนหน้า แต่ในขณะเดียวกันแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งผลกระทบต่อค่ายกล ทำให้แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน จากการมาถึงของเทพแห่งแสงจางกงเว่ย

    ........

    วังวนแห่งชีวิตยังคงควบแน่นและพลังชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้น เมื่อพลังชีวิตที่จุดตันเถียนส่วนกลางบริเวณหน้าอกของไต้อิ๋ง ดูดซับพลังงานชีวิตในร่างกายของเขาไปมากกว่าครึ่ง วังวนแห่งชีวิตก็เสถียรโดยไม่คาดคิด และวังวนแห่งชีวิตก็ดึงพลังงานชีวิตบางส่วนเข้าไปด้วยตัวเอง

    มีพลังงานชีวิตจำนวนมากในน้ำของทะเลสาบเทพสมุทร พลังงานชีวิตเหล่านี้หลอมรวมเข้ากับร่างกายมนุษย์ในกระบวนการที่ไม่สามารถระบุได้ แต่ทำให้พลังชีวิตของไต้อิ๋งเพิ่มขึ้นในทุกนาทีและทุกวินาที เคล็ดวิชากำเนิดชีวิตเป็นเทคนิคทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกฝนพละกำลัง มันกรอง ควบแน่น ปรับปรุง และผสานพลังงานที่ดูดซับจากทะเลสาบเทพสมุทร ทำให้มีคุณลักษณะของชีวิตที่ไม่สิ้นสุด

    ผลกระทบจากพลังทั้งสองชนิดที่ทับซ้อนกัน ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้ปะทะกันอีก ถึงแม้วังวนพลังทั้งสองจะต่างกัน และเข้ากันไม่ได้ แต่ทิศทางการเคลื่อนที่ก็ต่างกัน จึงไม่ทำให้เกิดความโกลาหลของพลัง และนำไปสู่การเกิดธาตุไฟเข้าแทรก

    อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พลังของเธอค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไต้อิ๋งก็รู้สึกว่าตัวเธอเริ่มหนักขึ้น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เพราะเธอฝึกฝนมาโดยตลอด

    พลังงานทั้งสองกำลังเพิ่มขึ้น และพวกมันขนานกันในเส้นลมปราณเดียวกัน มันเริ่มบีบเข้าหากันอีกครั้ง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดความโกลาหลขึ้นอีก

    แม้ว่าจุดตันเถียนส่วนกลางที่หน้าอกและจุดตันเถียนส่วนล่างที่ช่องท้องจะควบแน่นพลังชีวิตและพลังวิญญาณเสวียนเทียนไว้เป็นจำนวนมากตามลำดับ แต่นี่ไม่ใช่วิธีที่จะรวมพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน พวกมันจะต้องผสานเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง

    แล้วมันต้องทำอย่างไร? เมื่ออารมณ์ของไต้อิ๋งเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย เสียงที่อ่อนโยนก็ดังขึ้นในใจของเธอ

    "ชีวิตคือการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นวิชาเสวียนเทียนหรือวิชากำเนิดชีวิต ทั้งหมดล้วนมาจากพลังแห่งการสร้างสรรค์ ดังนั้นถึงมันจะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีการก็แตกต่างกัน" ถ้าคุณพร้อมแล้ว ฉันแนะนำให้คุณเปิดจุดเชื่อมต่อฟ้าดิน เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างจุดตันเถียนทั้งสองสมบูรณ์ และคุณจะสัมผัสได้ถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น"

    เมื่อได้ยินเสียงนี้หัวใจของไต้อิ๋งก็กลับมามีสมาธิอย่างแน่วแน่อีกครั้ง

    พลังอันนุ่มนวลค่อย ๆ หลอมละลายเข้าสู่ร่างกายของเธอ ทำให้ร่างกายเธอดูขยายขึ้นเล็กน้อย

    ในชั่วพริบตา ไต้อิ๋งรู้สึกเพียงว่าเส้นลมปราณตามด้านข้างกระดูกสันหลังของเธอ ได้รับพรอย่างชัดเจน

    พลังงานชีวิตในร่างกายเริ่มไหลเข้าสู่เส้นลมปราณทางด้านซ้าย จากจุดบนลงล่าง ขณะที่พลังวิญญาณเสวียนเทียนในจุดตันเถียนส่วนล่าง จะไหลจากจุดล่างขึ้นบน ที่เส้นลมปราณทางด้านขวา




    << Back | Chapters List | Next >>

    Translate

    จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

    ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน