Douluo Dalu4.5 : บทที่32 การสนทนาของราชันย์เทพ

    Author: Lemonade Genre: »
    Rating

    Douluo Dalu4.5 : บทที่32 ..


    ร่มเงาอันใหญ่โตของต้นไม้เทพเจ้า ปกคลุมไปทั่วเกือบครึ่งหนึ่งของทะเลสาบเทพสมุทร ลมหายใจที่สมบูรณ์ของพลังชีวิตจากต้นไม้เทพเจ้า ตกลงสู่ทะเลสาบเทพสมุทรและซึมซับเข้าไปยังแกนโลก หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตบนทวีปโต้วหลัวแห่งนี้ทั้งหมด เหนือร่มไม้ขนาดใหญ่ของต้นไม้เทพเจ้า มีศาลาที่โอบล้อมไปด้วยกิ่งก้านของต้นไม้เทพเจ้า ภายในศาลามีผู้อำนวยการแผนกสี่คนกำลังนั่งดื่มด่ำกับน้ำชาอยู่ด้วยกัน

    ชานี้เป็นชาที่ธรรมดามาก มีกลิ่นหอมของดอกไม้บนโลก สำหรับสิ่งนี้พวกเขาชอบมันมาก

    พวกเขาอาศัยอยู่ในอาณาจักรเทพมานานเกินไป นับตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงโรงเรียนเชร็ค พวกเขาก็ชอบทุกอย่างที่นี่ การมองดูความเจริญรุ่งเรืองของโลกนี้ด้วยสายตาของพวกเขา เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุด สนุกกว่าตอนอยู่บนอาณาจักรเทพที่น่าเบื่อเสียอีก

    ที่นี่ไม่มีใครรู้จักตัวตนของพวกเขา เมื่อพวกเขาเดินไปตามถนนพวกเขาจะถูกปฏิบัติเหมือนคนธรรมดา

    จางกงเว่ยนอนอยู่บนเถาวัลย์ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เล่นถ้วยชาในมืออย่างร่าเริงและกล่าวว่า "ดูสิ ถ้วยน้ำชาใบนี้ทำออกมาได้ดีมาก ถูกสร้างโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ เส้นสีดำในถ้วยน้ำชาบางเท่าปีกจักจั่น ชาเป็นสีอะไร เส้นข้างในก็เป็นสีนั้น นั่นเป็นเพราะอิทธิพลของชา"

    เหลยเซียงจิบเครื่องดื่มในถ้วยของเขาแล้วพูดว่า “ดื่มชาไปจะมีประโยชน์อะไร ไวน์สิถึงจะดี สีเหลืองเหมือนอำพัน รสชาติหวานนุ่มละมุน "

    "พูดราวกับว่าคุณสามารถเมาได้" โจวเหว่ยชิงพูดด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อยเพราะศิษย์ของเขาถูกแย่งไป

    คุณรู้อะไรไหม ดื่มไวน์ไม่ใช่เพื่อเมากันทุกคน เหลยเซียงกล่าว

    มีแต่อาไต ที่จิบชาช้าๆ โดยไม่พูดอะไร แต่ด้วยสายตาที่อ่อนโยนของเขา เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกมีความสุขในช่วงเวลานี้

    "ดื่มชา ชมทิวทัศน์ สัมผัสความงามของดอกไม้ระหว่างฟ้าดิน ช่างเป็นวันที่สวยงาม! ตอนนี้ฉันไม่มีแผนจะกลับไปแล้ว การอยู่ที่นี่ก็ไม่เลวเลย ในบางครั้งฉันก็อาจจะไปเป็นอาจารย์และเฝ้าดูการเติบโตของพวกเขา จางกงเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

    อันที่จริง การมาที่นี่ฉันถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากอาณาจักรเทพโดยสิ้นเชิง ถ้าให้พูดถึงความคิดของถังอู่หลินนั้นดีมาก สถานที่นี้ ที่โรงเรียนเชร็ค ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ ฉันไปมาหลายดาวแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นมีที่ไหนที่น่าสนใจเท่าที่นี่"

    เหลยเซียงเห็นด้วยกับคำพูดของจางกงเว่ยเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่เขามาที่นี่ เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย

    “ตามที่ตกลงกันก่อนหน้านี้ คนสองสามคนจะถูกแทนที่เมื่อถึงเวลา ถึงตอนนั้นเราควรทำอย่างไร?” โจวเหว่ยชิงถาม

    จางกงเว่ยยักไหล่แล้วพูดว่า :"จะไปทำอย่างไรได้? ถ้าพวกเขาเต็มใจที่จะลงมา ก็ให้พวกเขาลงมา อย่างไรก็ตามอาณาจักรเทพของเราก็อยู่ไม่ไกลจากทวีปโต้วหลัว เราสามารถใช้อาณาจักรเทพดึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของเราให้อยู่ในอาณาจักรเทพ แล้วนำพลังส่วนหนึ่งเท่านั้นลงมาในทวีปโต้วหลัว มันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อทวีปโต้วหลัว"

    ยังไงก็ต้องระวังเอาไว้ด้วย อย่าให้ส่งผลกระทบใดๆต่อดาวโต้วหลัว

    ในที่สุดอาไตก็พูด :"ไม่น่าเป็นไปได้ที่เราจะส่งผลกระทบต่อทวีปโต้วหลัว" แต่ถ้าเรายังคงสอนนักเรียนอยู่ที่นี่ นักเรียนของเราจะเติบโตเร็วขึ้นกว่าปกติ ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบต่อสมดุลของดาวโต้วหลัว นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย

    จางกงเว่ยกล่าวอย่างองอาจ :"ฉันได้พิจารณาเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ตอนอยู่ที่แดนปีศาจ ตอนนี้เราอยู่ในช่วงทดลอง ว่าจะมีนักเรียนประเภทใดบ้างที่จะสามารถได้รับการแนะนำจากเรา หลังจากนั้นฉันก็มีความคิดว่า ถ้ามีเพียงคนของดาวโต้วหลัวที่ได้รับการสอนจากพวกเรา มันก็จะไม่ยุติธรรมกับสหพันธ์โต้วหลัวหรือแม้แต่ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆภายใต้การควบคุมของอาณาจักรเทพ

    หลังจากที่เราประสบความสำเร็จจากการสอนในครั้งนี้แล้ว ฉันวางแผนที่จะประกาศว่า เรากำลังสอนอยู่ที่โรงเรียนเชร็ค ดังนั้นความหมายที่ฉันจะบอกก็คือ เราจะเปลี่ยนสถานะของโรงเรียนเชร็คเป็น สถาบันการสอนแห่งแรกในระดับสหพันธ์โต้วหลัว

    “ในเวลานั้นเราจะเปิดแผนกของเราเองและให้นักเรียนทุกคนลงทะเบียนเข้าร่วม การสอนแบบเดียวกันไม่แบ่งชนชั้น ด้วยวิธีนี้จะยุติธรรมสำหรับทุกคน และสิ่งนี้จะช่วยพัฒนาสมดุลของดาวเคราะห์แต่ละดวงที่เราควบคุมอยู่ โดยวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อรอการวิวัฒนาไปสู่ดาวเทพเจ้าเมื่อถังซานกลับมา

    "หือ? นักเรียนจากทุกดาวเคราะห์กำลังจะมา? แล้วฉันจะสอนได้ไหม?" เหลยเซียงพูดอย่างแปลกใจ :"ฉันไม่ต้องการลำบากขนาดนั้น"

    จางกงเว่ยยิ้มและพูดว่า :"แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เราจะสอนด้วยตัวเอง บางทีเราอาจใช้วิธีพิเศษบางอย่างเพื่อให้พวกเขาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ฉันมีความคิดที่น่าสนุกบางอย่าง ในทวีปนี้มีเกมหนึ่งที่ชื่อว่า 'โลกโต้วหลัว' พวกคุณลองเล่นกันหรือยัง?"

    "โดยทั่วไปมันก็สนุก และฉันลองเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม โลกโต้วหลัว ไม่สามารถทนความแข็งแกร่งของเราได้ ต่อให้ใช้พลังเพียง1%ของความแข็งแกร่ง มันก็รับไม่ได้ ฉันจึงยอมแพ้" โจวเหว่ยชิงกล่าว

    จางกงเว่ยยิ้มและกล่าวว่า :"ถ้าเราสร้าง โลกโต้วหลัว ให้เป็นแพลตฟอร์มการฝึกอบรมได้จริงๆล่ะ การเชื่อมต่อที่ไม่ใช่แค่โลกเสมือนจริงหรือการฉายภาพช่วงเวลาหนึ่ง แต่เป็นบุคคลจริงๆ ร่างกายจริงๆ " เราจะเชื่อมต่อกับโลกกับดาวเคราะห์ทุกดวง เพื่อจำลองโลกที่เราเคยอาศัยอยู่ให้นักเรียนได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ พวกคุณว่ามันน่าสนใจไหม?

    ทันทีที่ฟังคำกล่าวนี้ของจางกงเว่ย ไม่ว่าจะเป็นเหลยเซียง อาไต หรือโจวเหว่ยชิง ดวงตาของพวกเขาแต่ละคนก็เป็นประกายขึ้น
    "คุณจะทำยังไง?" เหลยเซียงมองไปที่จางกงเว่ยอย่างสงสัย

    จางกงเว่ยพูด :"นี่เป็นเพียงความคิดริเริ่ม ไม่ต้องกังวล เมื่อเรากลับไปที่แผนกเราจะหารือกับทุกคนกันอีกครั้ง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เราจึงต้องหารือ และได้รับความเห็นชอบจากทุกคน และยังต้องถามเซวียนอวี่ด้วยว่า เขาจะให้สหพันธ์ม้ามังกรเข้าร่วมด้วยหรือไม่ ถ้าอาณาจักรเทพมังกรเข้าร่วมกับแพลตฟอร์มของเรา "โลกโตัวหลัว" ก็จะสำเร็จไปได้ด้วยดี และในอนาคตแพลตฟอร์มนี้จะถูกใช้เพื่อฝึกฝนพรสวรรค์ "

    “อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถรีบเร่งได้ เราต้องค่อยๆดำเนินการเพื่อให้มันเกิดขึ้น ฉันเกรงว่ามันจะใช้เวลานาน ยิ่งกว่านั้นเราต้องพิสูจน์ก่อนว่าการสอนของเรานั้นเป็นที่เข้าใจได้! ตอนนี้พวกเราแต่ละคน สอนนักเรียนหนึ่งคนเท่านั้น และเราจะพลาดไม่ได้ มิเช่นนั้นเราจะไม่สามารถคุยกับสหพันธ์โต้วหลัวได้เลย ถึงการจัดการกับ แพลตฟอร์มโลกโต้วหลัว

    เหลยเซียงหัวเราะคิกคัก :"ฉันไม่รู้ว่าคุณหมายถึงตัวเองหรือป่าวที่จะพลาด อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะพลาด เพราะนักเรียนของฉันค่อยข้างดี และในการทดสอบประจำปีคงไม่พลาดอันดับหนึ่ง"

    "คุณจะตายหรือไงถ้าไม่ได้โอ้อวด" โจวเหว่ยชิงอดไม่ได้ที่จะพูดกระแนะกระแหนเขา" ทำไมนักเรียนคุณถึงหรือ? ถึงจะเป็นที่หนึ่ง? ฉันต้องบอกคุณว่านักเรียนของฉันจะได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน แม้ว่าคุณจะแย่งอีเฉินไปได้ แต่นักเรียนที่ฉันเลือกก็ไม่เลว ซึ่งเขาทำให้ฉันประหลาดใจมาก "

    อาไตแสยะยิ้ม ดวงตาของเขาเห็นได้ชัดว่าแสดงความดูถูกเหยียดหยามเล็กน้อย

    จางกงเว่ยหัวเราะ และพูดว่า :"ดูเหมือนพวกคุณทุกคนจะมีความเชื่อมั่นในตัวลูกศิษย์ของพวกคุณ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดี" ใครจะเป็นที่หนึ่ง? ถึงเวลาการประเมินประจำปีมาถึงเราจะได้รู้กัน เรามาพนันกันไหม ถ้าลูกศิษย์ใครได้ที่หนึ่ง อีกสามคนจะต้องโค้งคำนับด้วยความเคารพและพูดว่า"พี่ใหญ่"

    “ฉันไม่มีปัญหา” เหลยเซียงเห็นด้วยโดยไม่ลังเล

    อาไตนั่งจิบชาและกล่าวอย่างสงบ : "ตกลง"

    โจวเหว่ยชิงยิ้ม :"ไม่มีปัญหา ฉันตกลง" แค่พูดถึงความอาวุโส พวกเขาทั้งหมดล้วนอาวุโสกว่าเขาแค่การพูดว่า'พี่ใหญ่' สำหรับเขาแล้วไม่ได้เสียหายอะไรเลย

    "ตกลงตามนั้น!"

    จางกงเว่ยหาว และกล่าวว่า :"ดื่มชาแล้วก็ทำให้ง่วงนอน ฉันขอนอนพักสักครู่แล้วค่อยคุยกันใหม่"

    เหลยเซียงพูด :"ฉันเห็นคุณเอาแต่นอนทั้งวัน นักเรียนของคุณจะดีจริงๆหรือ ถ้าฉันจำไม่ผิดนักเรียนของคุณก็เป็นคนที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ แค่การประเมินรอบแรกเขาก็ล้มลงโดยไม่ได้มีความตั้งใจจะประเมิน"

    "ไม่ต้องรีบร้อน ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ บางทีพรสวรรค์ก็อาจจะไม่จำเป็น จางกงเว่ยพูดในขณะที่เขากำลังหลับตา"




    << Back | Chapters List | Next >>

    Translate

    จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

    ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน