Douluo Dalu4.5 : บทที่38 ภาพลวงตา

มอนิเตอร์หลักในห้องสังเกตการณ์ มีขนาดใหญ่เท่าจอยักษ์ในโรงภาพยนต์ และยังมีมอนิเตอร์ขนาดใหญ่อีกสามสิบจอภายในห้อง

ในเวลานี้ ฉากที่ปรากฏบนมอนิเตอร์หลักคือฉากที่อีเฉินฆ่าศัตรูของเขา นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มการสอบในวันนี้

เกี่ยวกับสถานการณ์ของนักเรียนชื่อแดง ย่อมเป็นที่สนใจของคณะครู นักเรียนชื่อแดงทั้งสี่คนเป็นนักเรียนที่ถูกคัดเลือกมาเป็นพิเศษจากแผนกที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ทั้งสี่แผนก

เมื่อครูแต่ละคนรู้ว่านักเรียนทั้งสี่จะตกเป็นเป้าหมายในลักษณะนี้ ทุกคนก็ตกใจ เพราะสิ่งนี้ขัดต่อหลักความเป็นธรรมของโรงเรียนเชร็ค สำหรับเรื่องนี้คณบดีด้านนอกก็ไม่ได้ให้คำอธิบาย คณบดีลานด้านในก็เห็นชอบกับเรื่องนี้

ดังนั้นอาจารย์ของลานด้านนอกจึงอยากรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของนักเรียนสี่คนนี้ นี่ไม่ใช่ไข่อีสเตอร์จากคนที่แข็งแกร่งจากภายนอก แต่เป็นไข่อีสเตอร์ที่มาจากนักเรียนในระดับชั้นเดียวกัน เป็นไปได้ไหมว่านักเรียนจากแผนกใหม่ทั้งสี่นั้นแข็งแกร่งมาก? หรือเพราะรับนักเรียนเพียงคนเดียว แผนกทั้งสี่นั้นจึงได้ดำเนินการฝึกอบรมแบบพิเศษสำหรับนักเรียนสี่คนนี้ เพื่อให้นักเรียนมีพลังพิเศษ?

เมื่ออีเฉินปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก เขาได้ซ่อนตัวอยู่ และสิ่งที่คณะครูรับรู้ มันเป็นการตอบสนองปกติของพฤติกรรมการระมัดระวังตัว
จากนั้นพวกเขาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเงียบๆอยู่ไม่ไกลทางด้านหลังของอีเฉิน
จากมุมมองของพวกเขา อีเฉินไม่เห็นอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายเห็นอีเฉินอย่างชัดเจน

ไฟสีแดงบนตัวเขา

หญิงสาวลังเลอยู่คู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็เคลื่อนไหว วงแหวนวิญญาณสี่วงปรากฏขึ้น เธอเป็นจักรพรรดิวิญญาณสี่วงแหวน ซึ่งไม่อ่อนแอในหมู่นักเรียนชั้นปีหนึ่งอย่างแน่นอน เธอค่อยๆปลดปล่อยจิตวิญญาณการต่อสู้ของเธอ มีหมอกปรากฏขึ้นบริเวณรอบๆทำให้ทุกอย่างกลายเป็นภาพลวงตา

"นี่เป็นจิตวิญญาณการต่อสู้แบบไหน?" จางกงเว่ย เหลยเซียง อาไต และโจวเหว่ยชิง ทั้งสี่แทบจะกล่าวออกมาพร้อมกัน ขณะนี้พวกเขาอยู่ในห้องสังเกตการณ์ด้วย เพราะพวกเขาต้องการดูว่านักเรียนของพวกเขาจะได้ผลลัพธ์อย่างไรในการสอบครั้งนี้!

เมื่อหญิงสาวผู้นี้ปลดปล่อยจิตวิญญาณการต่อสู้ของเธอ พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ในใจ พวกเขายังรู้บางอย่างเกี่ยวกับจิตวิญญาณของทวีปโต้วหลัว เนื่องจากพรสวรรค์ของจิตวิญญาณการต่อสู้นี้ ได้สร้างราชันแห่งเทพเจ้ามากมาย!

“ภาพลวงตา!” หลันเมิ่งฉิน กระซิบอยู่ข้างพวกเขา

"มันน่าสนใจ ภาพลวงตานี้ค่อนข้างสมจริง และภาพลวงตาที่ปล่อยออกมาก็มีผลลัพธ์ที่ดีมาก!" จางกงเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

พวกเขาเห็นว่าหญิงสาวเดินไปรอบๆ อย่างเงียบๆ และปรากฏตัวต่อหน้าอีเฉิน ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

ทักษะวิญญาณที่หนึ่ง ภาพลวงตา , ทักษะวิญญาณที่สอง การอ่านใจ หลันเมิ่งฉินอธิบายเพิ่มเติม

ทักษะภาพลวงตาสามารถสร้างภาพลวงตาได้ และทักษะการอ่านใจก็เทียบเท่ากับการเป็นสื่อชี้นำให้ภาพลวงตาแสดงผลที่ดี
อ่านความคิดในหัวใจของอีกฝ่าย เพื่อทำให้ภาพลวงตาของตัวเองสมบูรณ์แบบ และทำให้ภาพลวงตาเป็นจริงและแข็งแกร่งขึ้น

สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือ "หลิงจื่อเฉิน" เดินไปทางอี้เฉิน

เมื่อหลิงจื่อเฉินปรากฏตัว สีหน้าของกษัตริย์ทั้งสี่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาประทับใจปืนใหญ่บนโลกคนนี้มาก หลังจากนั้นพวกเขาได้ยินการสนทนาระหว่างอีเฉินกับ"หลิงจื่อเฉิน" และได้เห็นการระเบิดของเขา

"เคล็ดวิชาเทพพิโรธ?" จางกงเว่ยมองไปที่เหลยเซียงข้างๆและถามเขา

หมัดของอีเฉินปะทุขึ้นในทันที ทำให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บโดยไม่สามารถป้องกันได้ เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ของเขามีความคิดว่า เขาไม่รู้สึกถึงความเร็วของภาพลวงตา

จากนั้นแหวนวิญญาณที่สามของหญิงสาวก็ส่องประกายนี่คือความสามารถวิญญาณที่สาม

เปลี่ยนตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งของลมปราณ เพื่อที่จะซ่อนตัวอยู่ในภาพลวงตา และบรรลุวัตถุประสงค์ไม่ว่าจะซ่อนหรือหลบหนี

จากนั้นพวกเขาก็เห็นการปรากฏขึ้นของอากาศสีดำและกระแสลมที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบความมืดจับร่างของหญิงสาวในอากาศ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นมันก็ระเบิดขึ้นทันที

วิชาเทพพิโรธและวิชามารฟ้าถูกฝึกฝนร่วมกันและดูเหมือนเขาจะทำได้ดีทีเดียว นี่คุณทำได้ยังไง? โจวเหว่ยชิงถามด้วยความประหลาดใจ

เหลยเซียงยิ้มอย่างมีชัยและพูดว่า : "แน่นอนว่าครูเก่ง นักเรียนก็ต้องเก่งเป็นธรรมดา" แต่ฉันไม่สามารถบอกรายละเอียดมากไปกว่านี้ได้? มันเป็นความลับภายในแผนกปลุกพลังของเรา

โจวเหว่ยชิงขดยิ้มที่ริมฝีปากแล้วกล่าวว่า : "เขาคิดยังไงถึงถ่มน้ำลายใส่แม่ของเขา เมื่อสอบเสร็จฉันจะกลับไปส่งเขาให้ปืนใหญ่โลกมนุษย์ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมีความสุขไหมเมื่อเขากลับถึงบ้าน"

"คุณแก่แล้วก็ทำตัวให้น่านับถือหน่อย" จางกงเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“คอยดูเถอะ เด็กคนนี้ไม่เลว พลังระเบิดนี้เหมือนคุณนิดหน่อย ตอนนี้เขาฝึกฝนถึงระดับไหนแล้ว?”

เหลยเซียงกล่าวว่า “ถึงเขาจะเป็นแค่มนุษย์ แต่สายเลือดของเขาเหมาะกับการฝึกฝนทักษะของฉันมาก ดังนั้นการฝึกฝนของเขาจึงค่อนข้างราบรื่น

เหลยเซียงพอใจกับความเร็วในการตอบสนองของอีเฉิน รวมถึงรูปแบบการเผชิญปัญหา คุณต้องรู้ว่าความเร็วในการตอบสนองของอีเฉิน ได้รับการฝึกฝนจากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สะสมผ่านการต่อสู้จริงอย่างต่อเนื่อง

วิธีการสอนของเหลยเซียงนั้นง่ายมาก แม้จะหยาบกระด้างไปสักหน่อย แต่นั่นก็เพื่อกระตุ้นอีเฉินอย่างต่อเนื่อง วิธีการกระตุ้นเขาอย่างรุนแรง ทำให้ศักยภาพของเขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากสายเลือดความบ้าคลั่ง ทำให้ความสามารถในการฟื้นฟูและพลังระเบิดของอีเฉินจึงค่อนข้างแข็งแกร่ง ภายใต้การกระตุ้นซ้ำๆของเลือดเขา ทำให้วิชาทั้งสองที่เขาฝึกฝนค่อยๆผสานกันจนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

แขนนั้นเปรียบเสมือนเทพพิโรธ ถ้าเหลยเซียงมีระดับการฝึกฝนอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา สีของลมปราณจะเป็นสีแดงอ่อนหรือแดงเข้ม

แต่ในเวลานี้เมื่ออีเฉินปะทุพลังออกมา ลมปราณของเขาคือสีแดงเข้ม และสีแดงเข้มของเขามีพลังแห่งการทำลายล้าง เป็นเหตุผลที่ทำให้สายเลือดความบ้าคลั่งของเขาถูกกระตุ้น เขาจึงสามารถเอาชนะนักเรียนหญิงที่มีระดับการฝึกฝนสี่วงแหวนได้ในเวลาอันสั้น

ในโรงเรียนเชร็คไม่มีคนธรรมดา ไม่ใช่ว่าคู่ต่อสู้อ่อนแอเกินไป แต่การระเบิดพลังของอีเฉินนั้นแข็งแกร่งเกินไป และเขาไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ของเขา

มอนิเตอร์หลักยังคงถ่ายทอดความเคลื่อนไหวของอีเฉินต่อไป

ความเร็วในการวิ่งของอีเฉินนั้นไวมาก ขาของเขาแข็งแกร่ง ทุกครั้งที่ขาเขาแตะพื้น เขาจะพุ่งไปข้างหน้าเหมือนหัวลูกศร บางครั้งก็ซ่อนตัวเองผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆ

นักเรียนที่ค้นพบเขา ถึงแม้ว่าบางคนจะรวดเร็วมาก แต่ทุกคนก็ไม่ใช่คู่แข่งของเขา เมื่อพวกเขาตามอีเฉินไม่ทัน พวกเขาก็ยอมแพ้และค่อยๆสลายตัวกันไป

บนหน้าจอของมอนิเตอร์ในห้องสังเกตการณ์ ผู้คนเริ่มต่อสู้กันทีละคน

การต่อสู้ส่วนใหญ่จะเป็นการล่าถอยเมื่อเพรี่ยงพร้ำ มีส่วนน้อยที่จะสู้กันถึงตาย และส่วนใหญ่ก็เป็นการจู่โจมเพื่อลองเชิง ท้ายที่สุดแล้วการสอบก็พึ่งเริ่มต้นขึ้น เมื่อพ่ายแพ้เร็วเกินไปก็อาจจะต้องตกอยู่ใน50อันดับสุดท้าย ดังนั้นทุกคนจึงระมัดระวังตัวกันมาก

นักเรียนที่เข้าโจมตีอีเฉินก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เธอคิดว่าอาศัยจิตวิญญาณการต่อสู้ภาพลวงตาและระดับพลังของเธอ ต่อให้สู้ไม่ได้ ก็สามารถหลบหนีได้ด้วยทักษะวิญญาณเปลี่ยนลมปราณของเธอ

ใครจะรู้ว่าพลังระเบิดของอี้เฉินนั้นทรงพลังมาก จนภาพลวงตาของเธอถูกทำลาย เธอยังไม่ทันได้ใช้ความสามารถวิญญาณที่สี่ของเธอด้วยซ้ำ ก็ถูกกำจัดออกไป

สถานการณ์ในห้องสอบอยู่ในสภาวะชะงักเป็นช่วงสั้นๆ และทุกคนก็ระมัดระวังตัวกันมาก

ในขณะนั้นเสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังก้องไปทั่วทั้งห้องสอบ

"พื้นที่ทดสอบกำลังจะหดตัว โปรดให้ความสนใจกับแผนที่ เตือนอีกครั้ง เตือนอีกครั้ง พื้นที่ทดสอบจะเริ่มหดตัวในอีกไม่กี่นาที โปรดให้ความสนใจกับแผนที่"

นี้ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว? นี่มันพึ่งผ่านมาไม่กี่นาทีเท่านั้นตั้งแต่เริ่มการทดสอบใช่ไหม? บางคนยังไม่ได้ปรับตัวให้เข้ากับที่นี่เลย เขตการสอบก็จะหดตัวแล้ว

<< Back | Chapters List | Next >>