Douluo Dalu4.5 : บทที่5 พ่อเลี้ยงแบบตามใจ

    Author: Lemonade Genre: »
    Rating

    Douluo Dalu4.5 : บทที่5 พ่อเลี้ยงแบบตามใจ


    หลังจากที่เธอและอีจื่อเฉินถูกชุบชีวิตขึ้นมา ร่างกายกึ่งกลไกดั้งเดิมของเธอ ก็ถูกแปลงเป็นมนุษย์อีกครั้ง ทำให้เขาและอีจื่อเฉินสามารถมีลูกด้วยกันได้ แต่หลังจากคลอดลูกชายคนนี้แล้ว ก็พบว่าลูกของเขา ไม่ได้รับมรดกสายเลือดจากพวกเขาเลย

    ในเวลานั้นสถานะการณ์ของอีเฉินไม่สู้ดีมากนัก โชคดีที่อาณาจักรเทพ ค้นพบปัญหาอย่างรวดเร็วในสายเลือดของอีเฉิน ซึ่งเป็นการดำรงอยู่ที่ไม่เหมือนใคร อย่างน้อยที่รู้จักทั้งหมดในอาณาจักรเทพ ก็มีเค้าเพียงคนเดียวที่เป็นเช่นนี้

    คุณต้องรู้ว่าเป็นเรื่องยากมากที่เลือดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    เอกลักษณ์ที่เรียกว่าไม่สัมพันธ์กับสายเลือดอื่นใด และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยสิ้นเชิง

    เช่นเดียวกับเทพมังกรถังเซวียนอวี่ ราชันเทพแห่งอาณาจักรเทพมังกร ซึ่งเลือดของเขาไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งเดียวทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเป็นถึงหนึ่งเดียวในจักรวาล

    อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสายเลือดที่เกี่ยวข้องกับเขาอยู่ แต่สายเลือดนั้นก็มาจากตัวเขาเองและไม่ส่งผลต่อความเป็นเอกลักษณ์ของมันในจักรวาล

    อาณาจักรเทพรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับสายเลือดที่เป็นเอกลักษณ์ของอีเฉิน และได้เปิดการศึกษาเกี่ยวกับสายเลือดของเขา

    แต่ในท้ายที่สุด อาณาจักรเทพก็พบว่าเลือดของเด็กคนนี้ มีความพิเศษมาก และเกินกว่าขอบเขตที่พวกเขาจะเข้าใจ ความเป็นไปได้ไร้ที่สิ้นสุด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่พบหลักฐานใดๆเลย พวกเขาทำได้เพียงเฝ้าดูการเติบโตของอีเฉินไปทีละก้าวเท่านั้น ว่าจะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน

    ฮั่วอวี่เฮ่ายิ้มและกล่าวว่า "เราจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเด็กคนนี้"

    คุณคิดว่าพี่โจวมาเมื่อสักครู่นี้เพื่ออะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะจะเอาดวงจันทร์มาอยู่ใกล้น้ำ

    ลักษณะสายเลือดของอีเฉินกับของเขานั้นถือว่ามีลักษณะสอดคล้องกัน แต่อาจจะไม่ใช่ในแบบที่เหมาะสมที่สุด แต่ก็ให้เด็กๆได้ตัดสินใจเอาเองแล้วกัน

    การประเมินในวันนี้ น่าจะทำให้เขาสามารถค้นหาทิศทางที่เหมาะสมกับตัวเขาได้มากที่สุด "

    “แล้วลูกสาวของคุณล่ะ?” อีจื่อเฉินถามฮั่วอวี่เฮ่าด้วยท่าทีสงสัย

    ในอาณาจักรเทพ การลำดับอาวุโสค่อนข้างสับสน

    ฮั่วอวี่เฮ่าเป็นลูกเขยของถังซาน และเป็นพี่เขยของถังอู่หลิน ในขณะที่อีจื่อเฉิน เป็นอาจารย์ของถังเซวียนอวี่ ลูกชายของถังอู่หลิน

    จากมุมมองของการลำดับรุ่น อีจื่อเฉินและฮั่วอวี่เฮ่าถือว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ในความเป็นจริง ฮั่วอวี่เฮ่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในทวีปโต้วหลัวมาก่อนตั้งสองหมื่นปีก่อน ซึ่งไวกว่าอี้จื่อเฉินถึงหมื่นปี

    นอกจากนี้ฮั่วอวี่เฮ่ายังเป็นผู้ก่อตั้งหอวิญญาณ และ ปัจจุบันยังเป็นราชาเทพเจ้าสูงสุดที่ปกครองอาณาจักรเทพ สถานะของเขาสูงมาก ดังนั้นอีจื่อเฉินจึงต้องให้เกียรติเขา

    แน่นอนว่าฮั่วอวี่เฮ่าเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เขาไม่เคยมีความทะเยอทะยาน เขาเพียงทำตามที่เทพสมุทรถังซานได้สั่งเสียเอาไว้ก่อนจากไปให้สมบูรณ์เท่านั้น คือการประครองไม่ให้อาณาจักรเทพขยายตัวและพัฒนามากเกินไป โดยมุ่งเน้นไปที่รากฐานความมั่นคงและการมีเสถียรภาพ

    สำหรับเขาที่มีบุคลิกและลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ ราชันเทพทั้งหมดในอาณาจักรเทพ ต่างก็จดจำเขาได้มากเช่นกัน และยิ่งเขาเป็นถึงลูกเขยของถังซาน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักเขาโดยธรรมชาติ

    "เด็กผู้หญิงคนนี้ ปล่อยเธอทำตามใจเธอไปเถอะ คุณรู้ไหมความคาดหวังของพ่อที่มีต่อลูกสาว มันไม่เหมือนกับความคาดหวังของพ่อที่มีต่อลูกชาย ถ้าฉันมีลูกชาย เขาจะต้องเป็นคนอารมณ์ดีให้มาก และเขาจะต้องประสบความสำเร็จสูงสุด แต่สำหรับลูกสาวของฉัน ไม่ว่าอะไร ตราบใดก็ตามที่ลูกสาวฉันมีความสุข หากเธอต้องการ แม้จะต้องเจาะทะลวงท้องฟ้า ฉันก็จะพาเธอบินขึ้นไป ฉันจะทำมันให้เธอ"

    ฮั่วอวี่เฮ่ามองร่างลูกสาวของเขาจากระยะไกล - ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม

    อีจื่อเฉิน อดไม่ได้ที่จะพูดว่า : "คุณไม่กลัวว่าลูกสาวคุณจะเสียนิสัยหรือ ?"

    "แล้วจะกลัวอะไร?" เสียนิสัยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฉันเลี้ยงเธอได้ตลอดชีวิต

    ฉันทนไม่ได้ที่จะให้เธอแต่งงานในอนาคต ถ้าใครจะแต่งงานกับลูกสาวของฉันในอนาคตล่ะก็

    ฮึ ฮึ !

    ฮั่วอวี่เฮ่าอดไม่ได้ที่จะกำหมัด แม้ว่าเขาจะไม่ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ใดๆ แต่เขาก็ทำให้อีจื่อเฉินรู้สึกหนาวได้

    ในขณะนี้ สิ่งที่ฮั่วอวี่เฮ่านึกถึงคือประสบการณ์ที่ได้จากพ่อตาของเขา เทพสมุทรถังซาน เมื่อตอนที่เขาตกหลุมรักถังอู่ถง มันเหลือทนจริงๆเมื่อมองย้อนกลับไป

    แม้กระทั่งเขาและถังอู่ถงแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว พ่อตาที่หัวโบราณของเขา ก็ยังแสดงสีหน้าที่ไม่ดีนักกับเขา ซึ่งเหตุนี้ก็ทำให้เขานั้นไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ จนกระทั่งเขาได้มีลูกสาวเป็นของเขาเอง เขาจึงเข้าใจสาเหตุทั้งหมดอย่างชัดเจน ถ้าลูกสาวถูกพรากไป คนเป็นพ่อก็คงจะเจ็บปวดใจ พ่อตาของเขาถึงได้ไม่อ่อนโยนกับเขาในตอนนั้น

    "คุณไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้ลูกชายของคุณ มาล่อลวงลูกสาวของฉันหรอกนะ?" ฮั่วอวี่เฮ่านึกบางอย่างขึ้นได้ และมองไปที่อีจื่อเฉินอย่างระแวดระวัง

    "ไม่อาจเอื้อม!"อีจื่อเฉินรีบโบกมือของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

    “ถ้าอย่างนั้นคุณคิดจะทำอะไร” ฮั่วอวี่เฮ่าจ้องมาที่เขาด้วยความร้อนรน

    "ฉันแค่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันมีลูกสาวเหมือนกัน และถ้าลูกสาวฉันมีลักษณะนิสัยเหมือนแม่.... อีจื่อเฉินเอามือปิดหน้า และมีความรู้สึกว่าไม่สามารถจะจินตนาการต่อไปได้

    ภรรยาของฉันมีฉายาว่าปืนใหญ่โลกมนุษย์ ถ้าปืนใหญ่โลกมนุษย์มีลูกสาว ไม่กล้าคิด ไม่กล้าคิดเลยจริงๆ

    การแสดงออกของฮั่วอวี่เฮ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตบไหล่อีจื่อเฉินด้วยความเห็นอกเห็นใจ "ไม่เป็นไร มันเป็นทางเลือกที่คุณเลือก คุณแค่ยอมรับมัน"

    ในเวลานี้ นักเรียนในจัตุรัสฟื้นสติขึ้นทีละคน หลังจากได้สติ ทุกคนต่างรู้สึกไม่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม นักเรียนส่วนใหญ่ที่มาสอบ ต่างก็มีความก้าวหน้า ทุกคนจึงยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความปิติยินดี

    นักเรียนบางคนที่เคลื่อนไหวร่างกายก่อนกระบวนการประเมินจะจบ ก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่คัดออกไป แต่มีไม่มากนัก จากการประมาณมีเพียงสองร้อยคนจากทั้งหมดสามพันกว่าคน เป็นการประเมินที่เรียบง่าย แต่อย่างไรก็ตามสองร้อยคนที่ถูกคัดออก แม้จะดูน่าเสียดาย แต่ดูเหมือนพวกเขาก็ได้ประโยชน์ไปไม่น้อย อย่างน้อยพวกเขาได้ตระหนักถึงข้อบกพร่องของตนเอง

    รัศมีบนร่างของอีเฉินค่อยๆคงที่ ส่วนไต้อิ๋งที่อยู่ข้างๆเขา กลับเป็นที่สะดุดตาที่สุด ประกายแสงรัศมีสีฟ้าอมชมพูทำให้เธอดูสว่างไสว และเงาแสงสีฟ้าอมชมพูที่ส่องประกายจางๆ ได้ปรากฏอยู่ด้านหลังของเธอ ดูเหมือนมันจะเป็นปีกคู่หนึ่งซึ่งมีขนาดมหึมา

    นักเรียนที่อยู่รอบๆเมื่อพวกเขาได้สติลืมตาขึ้นมา ดวงตาของพวกเขาล้วนจดจ่อมาที่เด็กหญิงที่ดูน่ารักคนนี้ ด้วยท่าทีประหลาดใจ ปนความอิจฉาเล็กน้อย

    แสงเงาสีฟ้าอมชมพูค่อยๆมาบรรจบกัน ไต้อิ๋งค่อยๆลืมตาขึ้น ลำแสงจางๆส่องประกายจากนัยน์ตาของเธอ ลมหายใจแผ่ออกมาจากร่างของเธอ รองเท้าบู๊ตเล็กๆที่อยู่ใต้เท้าของเธอ ได้กระทืบเท้าลงบนพื้นเบาๆ

    พลังจิตที่มองไม่เห็นได้แผ่กระจายออกไปในทันที ทำให้ดวงตารอบๆ รู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองมาที่เธอ ในขณะนั้นนักเรียนชายที่จ้องมองเธอได้แต่รู้สึกเหมือนว่า เธอคือสัตว์ร้ายที่กำลังเลือกเหยื่อที่จะกิน ทำให้พวกเขาตกใจมาก

    อีเฉินก็มีความรู้สึกคล้ายๆกัน แต่เขาดีกว่าคนอื่นมาก ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้เตรียมใจไว้บ้างแล้ว เมื่อเข้าอยู่ในอาณาจักรเทพ เขาได้พบกับไต้อิ๋งหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ได้แต่มองกันอยู่ไกลๆ

    เจ้าหญิงน้อยคนนี้เป็นคนเปิดเผย ซึ่งต่างจากเด็กหญิงคนอื่นที่มักขี้น้อยใจและเก็บตัว ครั้งสุดท้ายที่ภรรยาของราชันเทพจะกอดเขา ล้วนแต่ถูกเธอปฏิเสธ แล้วพวกเด็กผู้ชายที่นี่เป็นใครกัน? นี่คือแม่มดตัวน้อยที่ไม่ควรไปยั่วโมโหเธอ ทางที่ดีควรอยู่ห่างจากเธอน่าจะดีกว่า ฉันไม่ควรพูดมากหรือไปยั่วยุเธอ

    ไต้อิ๋งเหลือบมองไปทางอีเฉินโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่เธอเห็นคือร่างของอีเฉินที่ยืนอยู่ห่างไปไม่ไกล โดยที่เขาไม่สบตาเธอ

    " เฮ้ ทำไมนายไม่มองฉันล่ะ " ไต้อิ๋งคร่ำครวญ

    “ฉัน?” อีเฉินหันหน้าไปโดยไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่เขาเห็นคือสายตาเจ้าเล่ห์ของไต้อิ๋ง

    "อย่าหลงตัวเอง ฉันไม่ได้คุยกับคุณ" ไต้อิ๋งเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางดุดัน " โอ้..." อีเฉินเตรียมใจมานานแล้ว จึงหันหลังกลับมา

    "น่าเบื่อจริงๆ เจ้าท่อนไม้" ไต้อิ๋งเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เธอก็รู้สึกหงุดหงิด

    การประเมินรอบแรกจบลงแล้ว ขอเชิญเด็กนักเรียนที่ไม่ผ่านการทดสอบเดินออกไป เรากำลังจะเริ่มการประเมินรอบที่สอง โปรดไปที่ทะเลสาบเทพสมุทร ภายใต้การแนะนำของอาจารย์

    เสียงของหลันเมิ่งฉินดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของเด็กนักเรียน

    ไม่นานนัก อาจารย์จากลานด้านนอกก็พานักเรียนตั้งแถวรอ

    ทะเลสาบเทพสมุทรมีขนาดใหญ่ อยู่บริเวณด้านข้างของจัตุรัสเชร็ค สีของพื้นผิวทะเลสาบเทพสมุทร หากมองจากที่นี่จะให้ความรู้สึกพิเศษ ถึงความงดงามเช่นเดียวกับเม็ดไพลินขนาดใหญ่

    ตรงใจกลางของไพลินขนาดมหึมานี้มีเสาขนาดใหญ่ ที่ความสูงเสียดฟ้า และเป็นที่รู้จักกันในนาม"ต้นไม้แห่งเทพเจ้า" หรือที่เรียกว่าต้นกำเนิดของพลังชีวิตของมนุษย์ ขณะที่นักเรียนเดินไปที่ชายฝั่งของทะเลสาบเทพสมุทร แต่ละคนก็ได้รับการ์ดโลหะใบเล็กๆ ห้อยไว้ที่คอของพวกเขา



    << Back | Chapters List | Next >>

    Translate

    จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

    ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน