Douluo Dalu4.5 : บทที่59 ใครชนะ?(จบ)

    Author: Lemonade Genre: »
    Rating

    Douluo Dalu4.5 : บทที่59 ใครชนะ?(จบ)


    หากตัดสินตามมาตรฐานของปรมาจารย์วิญญาณ เวทมนตร์นี้ใกล้เคียงกับความสามารถของกายแท้วิญญาณยุทธ์ ทักษะวิญญาณวงแหวนที่เจ็ดของวิญญาจารย์ มันเป็นความสามารถทางร่างกายที่พิเศษมาก

    สัมผัสของความประหลาดใจบ่งบอกอยู่ในแววตาของไต้อิ๋ง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิงอวี่โม่จะป้องกันดาบสองเล่มของเธอได้ด้วยวิธีนี้ ร่างกายของเธอกระเด้งขึ้นในทันทีและดาบสั้นในมือของเธอก็หยุดนิ่งในอากาศชั่วครู่ ในชั่วพริบตาต่อมา ใบมีดสีเทาขนาดใหญ่ก็ควบแน่นในอากาศ

    เวลานี้ หลิงอวี่โม่ก็ร่ายคาถา : "จงเผาผลาญ บุตรแห่งแสง!" ในชั่วพริบตาต่อมา ร่างของเขาที่กลายเป็นร่างธาตุแสงก็สว่างขึ้นในทันที ด้วยแสงที่พร่างพราวปรากฏเป็นดาบแสงสีทองขนาดใหญ่ขึ้นมา ใบมีดแสงสีเทาและใบมีดแสงสีทองฟาดฟันเข้าหาเกือบจะพร้อมกัน

    เทคนิคที่สามของเก้ากลยุทธ์ ฮาเดส คมมีดตัดสังหาร!

    อวตารธาตุแสง ดาบแห่งแสงสว่าง!

    ใครบอกว่าหลิงอวี่โม่ไม่มีเทคนิคโจมตี ตัวเขาเองก็ไม่เคยบอกแบบนั้น เขาแค่บอกว่าเขาเก่งที่สุดในด้านการป้องกันและการสนับสนุน ในปีที่ผ่านมาเขาถูกปีศาจปิดล้อม จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะไม่เรียนรู้เวทมนตร์โจมตีด้วยธาตุแสง?

    เขาสามารถทำได้ แต่เขาพอใจที่จะหลบหนีมากกว่า แต่สถานการณ์ในตอนนี้เขาไม่สามารถจะหลบหนีได้อีก ดังนั้นเขาในสภาพร่างอวตารแห่งแสงสว่าง ในฐานะบุตรแห่งแสงสว่าง จึงระเบิดพลังที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ใบมีดขนาดใหญ่สองใบปะทะกันต่อหน้าเมิ่งปิ้นไป๋ แสงดาบสีทองและสีเทาสองดวงตัดกันในอากาศ

    เนื่องจากเมิ่งปิ้นไป๋ที่กำลังตกตะลึง จึงไม่ได้สังเกตว่าแสงแห่งการรักษาบนร่างของเขาค่อยๆหายไป

    ..ณ ห้องสังเกตการณ์

    ทุกคนในห้องยืนขึ้น ไม้เว้นแม้แต่ราชันเทพทั้งสี่

    ในเวลานี้ไม่ใช่แค่จางกงเว่ยแต่เป็นพวกเขาทั้งสี่คน ดวงตาของพวกเขา บางคนก็แสดงอาการตกใจ บางคนประหลาดใจ บางคนพึงพอใจ

    การที่ราชันเทพที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่จะลงมาเป็นครูในอาณาจักรที่ต่ำกว่านั้นแทบเป็นไปไม่ได้! พวกเขาเองก็คิดเช่นนี้ แต่ก็เพื่อความสนุกสนานของพวกเขาเองตามที่ตกลงกันไว้

    และด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในการสอน แต่ก็มีวิธีที่จะช่วยนำพานักเรียนเหล่านี้กลับไปสู่เส้นทางการฝึกฝนเส้นทางเดิมได้

    แต่อย่างไรก็ตาม ในการประเมินนี้ สี่คนที่ชนะจนถึงนาทีสุดท้ายคือเด็กนักเรียนที่สอนโดยพวกเขา!

    นักเรียนทั้งสี่คนไม่เพียงแสดงความแข็งแกร่งที่เรียบง่าย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง สติปัญญา และจิตวิญญาณของการอุทิศตนและเสียสละเพื่อคู่หูของพวกเขา

    พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถามตัวเองว่า ในวัยเดียวกันนี้ พวกเขาจะทำได้แบบนี้หรือป่าว?

    เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้น.. ที่หนึ่งเมิ่งปิ้นไป๋ ที่สองไต้อิ๋ง ที่สามอีเฉิน ที่สี่หลิงอวี่โม่ นี่คือการจัดอันดับตามคะแนนสุดท้าย

    มีห้องจำลองหลายห้องที่ถูกเปิดมานานแล้ว แต่นักเรียนชั้นปีหนึ่งยังไม่ได้ออกไปไหน พวกเขารวมตัวกันและรออย่างเงียบ ๆ เฝ้ามองไปที่ห้องจำลองของทั้งสี่ที่ยังคงปิดอยู่ พวกเขายังเห็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของ"ไข่อีสเตอร์"ชื่อสีแดง ผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ และเห็นการปะทะกันที่ยอดเยี่ยมในครั้งสุดท้าย

    ห้องโดยสารจำลองแรกเปิดออกอย่างช้าๆ

    เมื่ออีเฉินออกจากห้องโดยสารจำลอง เขายังคงรู้สึกเสียวซ่าอยู่ทั่วร่างกายของเขา การถูกลูกธนูยิงไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย ในขณะนั้นเขารู้สึกว่าวิญญาณของเขากำลังจะหลุดลอยออกไปจริงๆ

    อย่างไรก็ตามหลังจากเรียนกับเหลยเซียงมาเป็นเวลานาน เขาไม่ได้เรียนรู้อย่างอื่น นอกจากนั้นยังคุ้นชินกับการถูกกระตุ้น

    เมื่อเขาขยับร่างกาย ก็ค่อยๆพบว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากโลกภายนอก การแสดงออกของเขาค่อนข้างแข็งทื่อ ..... ฉันจะไม่โดนรุมใช่ไหม?

    ในสถานที่แบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาทั้งสี่คน ต่อให้มีอีกสิบคนก็เอาชนะคนมากกว่าพันคนไม่ได้! "สวัสดี พวกคุณเป็นอย่างไรบ้าง"

    แววตาของนักศึกษาปีหนึ่ง แปลกๆไปเล็กน้อย ที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดไม่ใช่การไม่ยอมรับ แต่เป็นการชื่นชมจากใจ

    เมื่อพวกเขาเห็นจากหน้าจอใหญ่ว่าอีเฉินไม่ลังเลที่จะปิดกั้นลูกศรแทนไต้อิ๋ง ในใจพวกเขาไม่มีความเกลียดชังต่อ "ไข่อีสเตอร์" ชื่อแดง ที่เป็นเหมือนกับเทพปีศาจคนนี้อีกต่อไป

    ห้องโดยสารจำลองอีกสามห้องเปิดเกือบจะพร้อมๆกัน

    ไต้อิ๋ง เมิ่งปิ้นไป๋ หลิงอวี่โม่ เดินออกจากห้องโดยสารจำลอง ใบหน้าของพวกเขาซีดลงมาก

    ไต้อิ๋งและหลิงอวี่โม่เสียชีวิตพร้อมกันเมิ่งปิ้นไป๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต แต่เขาเป็นคนสุดท้ายที่ตายจึงถือเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย ดังนั้นคะแนนของเขาจึงถูกเก็บไว้อย่างสมบูรณ์

    ไต้อิ๋งเดินออกจากห้องจำลองและสังเกตเห็นอีเฉินในทันที เมื่อทั้งคู่สบตากัน อีเฉินก็กำลังจะพูดบางอย่าง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ไต้อิงได้พุ่งเข้ามากอดเขาและร้องไห้อย่างขมขื่น

    “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ คุณปกป้องฉันด้วยชีวิตของคุณ และสร้างโอกาสให้ฉัน แต่ฉันแพ้... ฮือฮือ…”

    เมื่อรู้สึกถึงแขนที่สั่นเทาของไต้อิ๋ง ทำให้อีเฉินตกตะลึงและคิดในใจว่า : "ฉันพึ่งได้รับความช่วยเหลือจากคุณในระหว่างการสอบ ดังนั้นฉันจึงอยากตอบแทนคุณ"


    ..ไม่เป็นไร..

    เขายกมือขึ้นเบาๆ และกำลังจะตบหลังเธอ แต่ในเวลานี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว และเผลอมองไปด้านข้างโดยไม่รู้ตัว

    ไต้อวี่ห่าวยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ มองดูมืออีเฉินที่กำลังยกขึ้นมา และมองดูลูกสาวของเขาอย่างอ่อนโยน...

    ราชันเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่รวมทั้งครูชั้นปีที่หนึ่งต่างเดินออกมา

    ไต้อิ๋งดูเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่าง จู่ๆเธอก็เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นพ่อของเธอ เธอก็ตื่นตระหนกและรีบปล่อยแขนของเธอ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ

    มุมปากไต้อวี่เฮ่ากระตุก นี่คือ "กะหล่ำปลีน้อย" ของเขาเอง!

    "บังเอิญว่าฉันมีพรสวรรค์ที่จะเป็นครู ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เมิ่งปิ้นไป๋ของฉันเป็นที่หนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า!" เสียงหัวเราะของเขาดังลั่น ดึงดูดความสนใจของทุกคน

    เป็นโจวเหว่ยชิงที่กำลังหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ

    เหลยเซียงมองไปที่จางกงเว่ยและพูดว่า "ฉันคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาควรถือว่าไม่แพ้และไม่ชนะ เพราะทั้งหมดทำได้ดี"

    “อืม เห็นด้วย” อาไตตอบสั้นๆ

    จางกงเว่ยพูดด้วยรอยยิ้มว่า "การเติบโตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"

    ราชันเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนต่างเลือกที่จะเพิกเฉยต่อใครบางคน

    ในที่สุดไต้อวี่เฮ่าก็ยิ้มและพูดว่า "การได้เห็นเด็กๆเติบโตขึ้น เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุด ถูกต้องแล้วที่จะไม่มีผู้ชนะหรือผู้แพ้ในการสอบครั้งนี้"

    “คุณ คุณ... โจวเหว่ยชิงจ้องไปที่ชายวัยกลางคนที่ไร้ยางอายทั้งสี่คนนี้ด้วยความโกรธเล็กน้อย

    อวี่เฮ่าเพิกเฉยต่อเขาและมองไปที่จางกงเว่ยก่อนจะพูดว่า "ดูเหมือนว่าเชร็คภารกิจสวรรค์ของเราจะดำเนินต่อไปได้ คุณคิดว่าไง?"

    จางกงเว่ยยิ้มและพยักหน้า: "เห็นด้วย"

    ไต้อวี่เฮ่ายิ้มและพูดว่า : "ตกลง เดี๋ยวฉันจะกลับไปดำเนินการในขั้นต่อไป อย่างไรก็ตามพวกคุณทั้งสี่คนยังต้องรับนักเรียนเพิ่ม ตามแผนของเราที่จะพัฒนาโรงเรียนในเชิงรุกอย่างเต็มที่ เอาไว้เรามาประชุมกันอีกครั้ง "

    รอยยิ้มบนใบหน้าของจางกงเว่ยชัดเจนมากขึ้นและพูดว่า "ใช่ เรื่องนี้ก็สำคัญ"

    เมิ่งปิ้นไป๋ พวกเราชนะหรือแพ้?

    “เดิมทีฉันคิดว่าเราชนะ แต่เมื่อฉันเห็นไต้อิ๋งกอดอีเฉิน ฉันก็คิดว่าเราแพ้แล้ว

    "มันสมเหตุสมผล แต่ปลอดภัยไว้ก่อน ปลอดภัยไว้ก่อน..."




    << Back | Chapters List | End >>

    Translate

    จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

    ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน